เมื่อพูดถึงบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ใส่อาหาร ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ชาม หรือถ้วยกระดาษ หนึ่งในคำที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเสมอก็คือ “ฟู้ดเกรด” หรือ Food Grade แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่า ฟู้ดเกรดคืออะไร? สำคัญอย่างไร? และทำไม ถ้วยกระดาษใส่อาหารถึงต้องได้รับมาตรฐานนี้ บทความนี้มีคำตอบอย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย
ฟู้ดเกรด (Food Grade) คืออะไร?
ฟู้ดเกรด คือ วัสดุที่ได้รับการรับรองว่าสามารถสัมผัสกับอาหารได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก กระดาษ หรือโลหะ วัสดุฟู้ดเกรดต้องผ่านมาตรฐานที่ยืนยันว่า:
- ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายปนเปื้อนลงสู่อาหาร
- ไม่ทำปฏิกิริยาเมื่อต้องสัมผัสกับของร้อน ของมัน หรือของเปรี้ยว
- ปลอดภัยต่อการใช้งานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ในประเทศไทย การรับรองฟู้ดเกรดจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับมาตรฐานอื่น ๆ เช่น GHPs, HACCP, หรือมาตรฐานสากลจากต่างประเทศ เช่น FDA (สหรัฐอเมริกา)
ถ้วยกระดาษฟู้ดเกรด ต่างจากถ้วยทั่วไปอย่างไร?
แม้จะดูคล้ายกันภายนอก แต่ ถ้วยกระดาษที่เป็นฟู้ดเกรด จะมีข้อแตกต่างที่ชัดเจน ดังนี้:
| ถ้วยกระดาษฟู้ดเกรด | ถ้วยกระดาษทั่วไป |
| ทำจากกระดาษเยื่อไม้บริสุทธิ์ | อาจมีการใช้เยื่อรีไซเคิล ไม่ปลอดภัยกับของร้อน |
| เคลือบด้วยสารกันซึมปลอดภัย (เช่น PE, PLA) | อาจใช้สารเคลือบที่ไม่ได้มาตรฐาน |
| ใช้หมึกพิมพ์ถั่วเหลือง Food Grade | อาจใช้หมึกพิมพ์ทั่วไปที่ไม่ควรสัมผัสอาหาร |
| ผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน | ไม่มีการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานใด ๆ |
| รองรับความร้อน สูงถึง 90°C | ทนความร้อน ต่ำกว่า 60°C |
ดังนั้น ถ้วยฟู้ดเกรดจึงมั่นใจได้ว่าเหมาะสำหรับใส่อาหารโดยตรง ไม่ทำให้เกิดสารปนเปื้อน หรือส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค
ฟู้ดเกรดต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง?
วัสดุที่ได้รับการรับรองว่าเป็น ฟู้ดเกรด (Food Grade) จะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและทดสอบทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถสัมผัสอาหารได้อย่างปลอดภัย โดยการทดสอบหลัก ๆ ที่ใช้พิจารณามีดังนี้:
- การทดสอบการแพร่ของสาร (Migration Test)
ตรวจสอบว่าสารเคมีจากวัสดุ เช่น พลาสติกหรือหมึกพิมพ์ จะไม่หลุดออกมาปนเปื้อนในอาหารเกินค่าที่กำหนด โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับความร้อนหรืออาหารที่เป็นกรด
- การทดสอบความทนทานต่ออุณหภูมิ
วัสดุจะต้องสามารถทนความร้อนได้โดยไม่บิดงอ ละลาย หรือปล่อยสารอันตราย เช่น ถ้วยกระดาษเคลือบ PE จะถูกทดสอบในอุณหภูมิสูง เช่น 90°C – 100°C
- การทดสอบสารอันตรายตกค้าง (Heavy Metals & BPA)
ตรวจหาสารต้องห้าม เช่น ตะกั่ว แคดเมียม หรือสาร Bisphenol A (BPA) ที่อาจสะสมในร่างกายผู้บริโภคและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว
- การทดสอบการใช้งานจริงในสถานการณ์จำลอง
เช่น การใส่อาหารร้อน อาหารมัน หรือของเหลวเปรี้ยวเป็นเวลานาน เพื่อดูว่าวัสดุทำปฏิกิริยาหรือไม่
มาตรฐานที่ควรมองหาในถ้วยกระดาษใส่อาหาร
ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารหรือผู้ประกอบการที่ใส่ใจในความปลอดภัยของลูกค้า ควรเลือกใช้ ถ้วยกระดาษที่มีการรับรองมาตรฐาน ดังต่อไปนี้:
GHPs (Good Hygiene Practices)
- หลักปฏิบัติที่เน้นความสะอาดในกระบวนการผลิต เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในบรรจุภัณฑ์
HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point)
- มาตรฐานที่วิเคราะห์และควบคุมจุดเสี่ยงในสายการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร
หมึกพิมพ์ถั่วเหลือง (Soy Ink)
- หมึกพิมพ์ที่ผลิตจากพืช ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และสามารถสัมผัสกับภาชนะใส่อาหารได้อย่างปลอดภัย
การเคลือบภายในที่ปลอดภัย
- เช่น PE Food Grade, PLA (พลาสติกชีวภาพจากพืช), หรือเคลือบสูตรน้ำ (Water-based coating)
ทำไมแบรนด์ควรใส่ใจเรื่องฟู้ดเกรด?
การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นฟู้ดเกรดไม่ใช่เพียงแค่เพื่อ “ผ่านมาตรฐาน” แต่ยังมีผลต่อ ความเชื่อมั่นของลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ อย่างมาก:
- ลูกค้ามั่นใจว่าอาหารปลอดภัย ไม่ปนเปื้อนสารเคมี
- เสริมจุดแข็งในการตลาด โดยเฉพาะกลุ่มรักสุขภาพและสายรักษ์โลก
- ลดความเสี่ยงจากการร้องเรียนหรือผลกระทบด้านกฎหมาย
- เป็นการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคมอย่างแท้จริง
สรุป
ฟู้ดเกรดคือมาตรฐานสำคัญที่ช่วยยืนยันว่าถ้วยกระดาษสามารถสัมผัสอาหารได้อย่างปลอดภัย ไม่ปนเปื้อนสารเคมี ไม่ทำปฏิกิริยากับของร้อนหรือมัน และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งยังเสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่ใส่ใจคุณภาพ การเลือกใช้ถ้วยกระดาษฟู้ดเกรดจึงเป็นทั้งความรับผิดชอบ และการลงทุนในภาพลักษณ์ที่ดีในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาถ้วยกระดาษฟู้ดเกรดที่มั่นใจได้ในมาตรฐาน — CPW Packaging พร้อมให้บริการถ้วยคุณภาพสูง เคลือบปลอดภัย พิมพ์โลโก้ด้วยหมึกถั่วเหลือง และผ่านมาตรฐาน GHPs, HACCP ครบถ้วน
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
ข้อมูลจาก : โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
เรื่อง : บรรจุภัณฑ์ Food Grade ปลอดภัยและดีต่อผู้บริโภคอย่างไร
ลิงก์ : https://food.dusit.ac.th/home/?p=7666
