บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารมีกี่ประเภท เลือกใช้แบบไหนจึงจะเหมาะกับธุรกิจของคุณ

ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การเลือกใช้ บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อทั้งคุณภาพสินค้า ความปลอดภัยของผู้บริโภค และภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสายตาตลาด การบรรจุอาหารอย่างถูกหลัก ไม่เพียงช่วยยืดอายุการเก็บรักษา แต่ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจของลูกค้าในทุกช่องทางจำหน่าย

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก ประเภทของบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารยอดนิยม พร้อมแนะนำวิธีเลือกให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

 

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารคืออะไร?

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร (Food Packaging) คือภาชนะหรือวัสดุที่ใช้ในการเก็บ บรรจุ หรือขนส่งอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนถึงมือผู้บริโภค โดยมีจุดประสงค์เพื่อ รักษาคุณภาพอาหาร ป้องกันการปนเปื้อน และอำนวยความสะดวกในการบริโภค ที่สำคัญ บรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องมีคุณสมบัติเป็น Food Grade ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดสารเคมีตกค้าง

 

ประเภทของบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารที่ควรรู้

ในตลาดปัจจุบัน มีบรรจุภัณฑ์ให้เลือกหลายประเภท ตามลักษณะการใช้งาน ดังนี้

ถ้วยกระดาษ / แก้วกระดาษ

วัสดุ: กระดาษฟู้ดเกรด เคลือบ PE, PLA หรือ Water-Based

เหมาะสำหรับ: ใส่อาหาร และ เครื่องดื่ม

จุดเด่น: น้ำหนักเบา รักษาอุณหภูมิได้ดี และสามารถพิมพ์โลโก้สร้างแบรนด์ได้ง่าย

ข้อควรพิจารณา: ควรเลือกถ้วยหรือแก้วที่ทำมาจากกระดาษฟู้ดเกรด

 

แก้วพลาสติก (PET / PP)

วัสดุ: พลาสติก PET (ใสสวยงาม) หรือ PP (ทนอุณหภูมิได้ดี)

เหมาะสำหรับ: ชานมไข่มุก น้ำผลไม้ สมูทตี้

จุดเด่น: แข็งแรง กันรั่วซึม โปร่งใสโชว์เครื่องดื่มได้ชัดเจน

ข้อควรพิจารณา: PET ไม่เหมาะกับความร้อนสูง ส่วน PP รองรับความร้อนได้แต่ไม่ใสเท่า PET

 

กล่องกระดาษใส่อาหาร

วัสดุ: กระดาษฟู้ดเกรด เคลือบกันซึมด้านใน

เหมาะสำหรับ: อาหารจานเดียว ข้าวกล่อง ขนมเบเกอรี่

จุดเด่น: เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจสาย Eco-Friendly

ข้อควรพิจารณา: ความแข็งแรงสู้พลาสติกไม่ได้ในบางกรณี

 

กล่องพลาสติก / ชามพลาสติก ใส่อาหาร

วัสดุ: พลาสติก PP (ทนร้อนได้ดี) หรือ PET (ใสสำหรับโชว์อาหาร)

เหมาะสำหรับ: อาหารเดลิเวอรี่, สลัด, ข้าวกล่อง

จุดเด่น: แข็งแรง ปิดสนิท รักษาความสดใหม่ได้นาน

ข้อควรพิจารณา: PET ไม่สามารถเข้าไมโครเวฟได้

 

บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก (PLA, Compostable)

วัสดุ: วัสดุย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น PLA จากพืช

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ต้องการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

จุดเด่น: ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ข้อควรพิจารณา: มีราคาสูงและมีข้อจำกัดในการใช้งาน

 

วิธีเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่ดูจากราคาเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ประเภทอาหาร ช่องทางการขาย และภาพลักษณ์ของแบรนด์

 

  1. เลือกตามประเภทอาหาร

อาหารร้อน: ใช้วัสดุที่ทนความร้อน เช่น ถ้วยกระดาษเคลือบ PE หรือแก้ว PP

อาหารเย็น / น้ำแข็ง: ใช้แก้ว PET หรือกล่อง PET ใส

อาหารมีน้ำมัน: ควรเลือกกล่องที่เคลือบกันน้ำซึมได้ดี

 

  1. เลือกตามรูปแบบการขาย

ขายหน้าร้าน (Takeaway): เน้นบรรจุภัณฑ์ที่หยิบจับง่าย และรูปลักษณ์สวยงาม

ขายเดลิเวอรี่: เน้นบรรจุภัณฑ์แข็งแรง ป้องกันการหก หรือการเสียหายระหว่างขนส่ง

ขายแบบพรีเมียม: เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดูหรูหรา เช่น กล่องใส่อาหารแบบมีช่องแยก หรือแก้วพรีเมียมพิมพ์ลาย

 

  1. เลือกตามภาพลักษณ์แบรนด์

แบรนด์รักษ์โลก: ใช้บรรจุภัณฑ์จากวัสดุย่อยสลายได้ หรือวัสดุรีไซเคิล

แบรนด์หรู: ใช้บรรจุภัณฑ์ดีไซน์เรียบหรู วัสดุแข็งแรงพิเศษ

แบรนด์วัยรุ่น/สดใส: ใช้แก้วและกล่องที่มีสีสัน หรือพิมพ์ลายสวยงามสะดุดตา

 

แนวโน้มบรรจุภัณฑ์อาหารในปี 2025

ในปี 2025 ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวทางการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ โดยมี 4 แนวโน้มสำคัญที่ควรรู้และปรับตัวให้ทัน:

 

  1. บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาแรง

ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) มากขึ้น บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุชีวภาพ เช่น PLA, เยื่อพืช, หรือ กระดาษเคลือบ Water-Based จึงได้รับความนิยมสูง เพราะสามารถ ย่อยสลายได้และลดขยะพลาสติก

 

  1. ดีไซน์ที่ตอบโจทย์แบรนด์เฉพาะกลุ่ม

การพิมพ์โลโก้หรือดีไซน์เฉพาะแบรนด์จะไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่เป็นกลยุทธ์ในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าและเพิ่มการจดจำ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่สื่อสารอัตลักษณ์ของแบรนด์อย่างชัดเจน จะเป็นสิ่งที่แบรนด์ชั้นนำใช้แข่งขันกันมากขึ้น

 

  1. บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart Packaging) เริ่มเข้าสู่ตลาด

เทคโนโลยีใหม่อย่าง QR Code บนบรรจุภัณฑ์ หรือการพิมพ์วันหมดอายุด้วยหมึกเปลี่ยนสีตามสภาพอากาศ จะเริ่มเป็นที่นิยม โดยเฉพาะกับสินค้าพรีเมียมหรือสุขภาพ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค

 

  1. ความปลอดภัยจากสารตกค้างกลายเป็นจุดขาย

ในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น GHPs, HACCP หรือ TISI จะได้รับความเชื่อมั่นมากกว่าเดิม แบรนด์ที่สื่อสารจุดนี้ได้อย่างชัดเจน จะได้เปรียบในการแข่งขัน

 

สรุป

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร มีให้เลือกหลายประเภทตามลักษณะสินค้าและกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ถ้วยกระดาษ กล่องอาหาร แก้วพลาสติก ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก การเลือกใช้ให้เหมาะสมไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการจัดส่งอาหาร แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า และช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

หากคุณกำลังมองหาบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง พร้อมบริการพิมพ์โลโก้ในราคาคุ้มค่า ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษาและบริการแบบครบวงจร

 

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

ข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

เรื่อง : วิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน บทที่ 6 การบรรจุภัณฑ์

ลิงก์ : https://hiperc.sru.ac.th/pluginfile.php/116468/mod_resource/content/1/บทที่%206%20การบรรจุภัณฑ์.pdf