ถ้วยกระดาษคืออะไร ข้อดีและข้อเสียที่คุณควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน

ถ้วยกระดาษ (Paper Cup) เป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดใช้แล้วทิ้งที่ได้รับความนิยมสูงในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านอาหาร และงานอีเวนต์ต่าง ๆ ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถพิมพ์โลโก้เพื่อสร้างแบรนด์ได้ จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเจ้าของธุรกิจในยุคนี้ แต่ก่อนเลือกใช้งาน เราควรรู้จักข้อดี-ข้อเสียของถ้วยกระดาษให้รอบด้าน เพื่อให้เหมาะสมกับสินค้า ประเภทอาหาร และงบประมาณมากที่สุด

ถ้วยกระดาษคืออะไร?

ถ้วยกระดาษ คือ บรรจุภัณฑ์ที่ทำจาก กระดาษฟู้ดเกรด (Food Grade Paper) มีการเคลือบสารกันซึมด้านใน เช่น PE (Polyethylene), PLA (Bioplastic), หรือ Waterbase Coating เพื่อให้สามารถรองรับของร้อน ของเย็น หรือของเหลวได้โดยไม่รั่วซึม ถ้วยกระดาษที่ดีควรได้รับมาตรฐาน เช่น GHPs / HACCP / FDA เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับอาหาร

ประเภทของถ้วยกระดาษที่นิยมในตลาด

ประเภทถ้วย รายละเอียด
ถ้วยไอศกรีม ขนาดที่นิยม 3 oz – 12 oz เคลือบ PE หรือ PLA ทั้งด้านในและด้านนอก ป้องกันการซึมและทนเย็นได้ดีกว่าเคลือบด้านเดียว
ถ้วยซุป มีขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 390 ml. – 850 ml. ถูกออกแบบมาให้ใช้กับอาหารร้อนได้ดี
ถ้วยพร้อมฝาปิด บรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องดื่มหรืออาหาร ที่มาพร้อมฝาปิดเพื่อความสะดวกในการพกพาและป้องกันการหก เหมาะสำหรับร้านเดลิเวอรี่
ถ้วย BIO /  ถ้วยย่อยสลายได้ ผลิตจากกระดาษเคลือบ PLA หรือ ชานอ้อย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ในสภาวะที่เหมาะสม

ข้อดีของถ้วยกระดาษ

1. ปลอดภัยต่อการใช้งานกับอาหาร

  • ถ้วยกระดาษที่ผลิตจากกระดาษฟู้ดเกรดจะไม่ปนเปื้อนสารเคมีในอาหาร เหมาะสำหรับทั้งร้อนและเย็น โดยเฉพาะถ้าได้รับการรับรองมาตรฐาน GHPs, HACCP

 

2. พิมพ์โลโก้ได้ ช่วยสร้างแบรนด์

  • ถ้วยกระดาษรองรับการพิมพ์แบบ Flexo หรือ Offset ด้วยหมึก Food Grade ทำให้ร้านค้าสามารถสร้างเอกลักษณ์แบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์ได้

 

3. ใช้งานสะดวก พกพาง่าย

  • น้ำหนักเบา ไม่แตกหักเมื่อหล่น พกพาได้สะดวก เหมาะกับธุรกิจเดลิเวอรี่และการใช้งานในอีเวนต์ต่างๆ

 

4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (โดยเฉพาะรุ่น BIO หรือ ชานอ้อย)

  • ถ้วย BIO ที่เคลือบ PLA สามารถย่อยสลายได้ภายใต้สภาพโรงหมักอุตสาหกรรม (Industrial Composting) ภายใน 90–180 วัน ลดการสร้างขยะพลาสติกถาวร

ข้อจำกัดและข้อเสียของถ้วยกระดาษ

1. ไม่เหมาะกับการใช้ซ้ำ

  • เมื่อใช้ซ้ำหลายครั้ง ความแข็งแรงของกระดาษจะลดลง และอาจเกิดการรั่วซึม

 

2. ย่อยสลายได้ช้าหากทิ้งผิดวิธี

  • ถ้วยเคลือบ PE ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และต้องแยกทิ้งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเฉพาะทาง

 

3. ไม่เหมาะกับการนำเข้าไมโครเวฟ

  • ถ้วยทั่วไปรองรับความร้อนประมาณ 80–100°C ไม่เหมาะกับการใช้งานในไมโครเวฟ

 

4. ต้นทุนสูงกว่าพลาสติกบางชนิด

  • โดยเฉพาะถ้วย BIO ที่ต้นทุนต่อใบจะสูงกว่าถ้วยพลาสติก PET หรือ PP แบบบางประมาณ 15–30% แต่แลกกับภาพลักษณ์แบรนด์และความปลอดภัย

ถ้วยกระดาษเหมาะกับใคร?

  1. ร้านอาหาร / คาเฟ่ ที่ต้องการพิมพ์โลโก้สร้างแบรนด์
  2. ร้านอาหารเดลิเวอรี่ ที่ใส่ใจภาพลักษณ์และสุขอนามัย
  3. อีเวนต์ สัมมนา งานแฟร์ ที่ต้องการลดพลาสติก
  4. ผู้บริโภคหรือองค์กรที่สนับสนุนความยั่งยืน

 

ผลสำรวจจากร้านอาหาร 500 แห่งทั่วประเทศ : 52% ของร้านอาหารเดลิเวอรี่ ระบุว่า การเปลี่ยนมาใช้ถ้วยกระดาษ หรือ PLA ทำให้ยอดรีวิวเชิงบวกในแอปเพิ่มขึ้น

(ข้อมูลโดยกรมควบคุมมลพิษ, 2566)

สรุป

ถ้วยกระดาษ เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวก ความปลอดภัย และการสร้างแบรนด์ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในยุคที่ลูกค้าให้ความสำคัญกับความสะอาดและภาพลักษณ์ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ใช้ซ้ำไม่ได้ รีไซเคิลยาก หรือมีราคาสูงกว่าพลาสติกบางชนิด แต่หากเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทสินค้า และบริหารจัดการหลังใช้อย่างถูกวิธี ถ้วยกระดาษก็สามารถเป็นตัวช่วยสำคัญในการยกระดับแบรนด์ และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้จริง

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

ข้อมูลจาก : BSI Group ประเทศไทย

เรื่อง : HACCP & GHPs สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร

ลิงก์ : https://www.bsigroup.com/th-TH/HACCP-Food-Safety-Risks/