แก้วพลาสติกแช่ฟรีซได้ไหม? ควรเลือกแบบไหนถึงปลอดภัย

ในยุคที่คนรักสุขภาพและความสะดวกสบายมากขึ้น การแช่แข็งเครื่องดื่มหรืออาหารในแก้วพลาสติกกลายเป็นเรื่องปกติที่หลายคนทำโดยไม่รู้ตัวว่า “แก้วพลาสติกที่ใช้แช่แข็งได้หรือไม่?” คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะการใช้บรรจุภัณฑ์ผิดประเภทอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้โดยไม่รู้ตัว

บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าแก้วพลาสติกแบบไหนแช่ช่องแช่แข็งได้จริง และควรหลีกเลี่ยงแบบไหน พร้อมคำแนะนำในการเลือกแก้วพลาสติกให้เหมาะกับการใช้งาน

 

ทำไมการเลือกแก้วพลาสติกให้เหมาะกับการแช่แข็งจึงสำคัญ?

เมื่อคุณนำของเหลวใส่แก้วพลาสติกแล้วนำไปแช่แข็ง น้ำจะขยายตัว ทำให้แก้วพลาสติกเกิดแรงดันจากภายใน หากแก้วไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการทนความเย็น ก็อาจเกิดอาการ “แตกร้าว” หรือ “รั่วซึม” ได้ง่าย

ยิ่งไปกว่านั้น บางประเภทของพลาสติกเมื่อเจออุณหภูมิต่ำมาก ๆ จะ “เปราะ” และเกิดการปล่อยสารเคมีออกมาในระดับที่อาจกระทบต่อสุขภาพได้

 

พลาสติกแต่ละประเภท ทนความเย็นได้ไม่เท่ากัน

ประเภทพลาสติก รหัส ทนความเย็นในช่องแช่แข็ง ความเหมาะสมในการแช่แข็ง
 

PP (Polypropylene)

 

#5

 

สามารถแช่ฟรีซได้ (-20°C)

ระยะเวลาที่ควรแช่ ไม่เกิน 3–7 วัน

 

ปลอดภัยที่สุด เหมาะสำหรับแช่แข็งอาหารและเครื่องดื่ม แต่ไม่เหมาะกับการแช่นานเกิน
 

PET (Polyethylene Terephthalate)

 

#1

 

ไม่แนะนำ (-12°C)

 

เปราะง่ายในอุณหภูมิต่ำ เสี่ยงแก้วแตกหรือรั่ว

 

PS (Polystyrene)

 

#6

 

ไม่แนะนำ

 

แตกหักง่ายเมื่อแช่แข็ง

 

HDPE

 

 

 

#2

 

 

ได้ (-18°C ถึง -40°C)

ระยะเวลาที่ควรแช่ ไม่เกิน7–14 วัน

 

 

ทนเย็นดีกว่า เหมาะกับการใช้แช่ของเหลว

 

PLA (ไบโอพลาสติก)

 

 

#7

 

ไม่แนะนำ

 

 

เสื่อมสภาพเมื่ออุณหภูมิต่ำมาก

 

อันตรายจากการใช้แก้วพลาสติกผิดประเภท

  • แก้วเปราะแตกเมื่อแช่แข็ง
  • น้ำรั่วออกจากแก้ว ทำให้ช่องฟรีซเปียกและเกิดกลิ่น
  • การปล่อยสารเคมี เช่น BPA หรือสารเคมีอื่น ๆ ที่แปรสภาพได้ เมื่อโดนเย็นจัด
  • อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น ระบบฮอร์โมนหรือการสะสมของสารเคมีในร่างกาย

 

รายงานจาก Healthline และ Harvard Health Publishing ชี้ว่า แม้ในอุณหภูมิต่ำ ไมโครพลาสติก(microplastics) และ สาร BPA, PFAS หรือ phthalates อาจรั่วออกมาได้จากพลาสติกที่ไม่มีคุณภาพ โดยเฉพาะเมื่อเกิดการแตกร้าวจากการแช่แข็ง

 

วิธีเลือกแก้วพลาสติกที่แช่แข็งได้อย่างปลอดภัย

  1. ตรวจสอบประเภทพลาสติก
  • ควรเลือกพลาสติกที่เป็นฟู้ดเกรด (food grade) มองหาสัญลักษณ์ “PP” หรือ “HDPE” บนก้นแก้ว หรือคำว่า Freezer Safe

 

  1. เลือกแก้วที่มีฝาปิดแน่นหนา
  • เพื่อป้องกันการขยายตัวของน้ำและแรงดันภายใน

 

  1. ไม่ควรเติมของเหลวเต็มแก้ว 100%
  • เว้นพื้นที่ไว้เล็กน้อยเพื่อให้ของเหลวมีที่ขยายตัวเมื่อแข็งตัว

 

  1. หลีกเลี่ยงแก้วแบบบาง
  • แก้วที่หนาและมีการรับรองคุณภาพจะปลอดภัยกว่า

 

สรุป

แก้วพลาสติกสามารถแช่แข็งได้หากเลือกใช้วัสดุที่ ทนความเย็นและปลอดภัยต่อการสัมผัสเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลาสติกประเภท PP และ HDPE ซึ่งผ่านการรับรองว่าสามารถใช้ในอุณหภูมิต่ำโดยไม่เปราะ แตก หรือปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตราย แต่ก็มีระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะหากแช่นานเกินไปรสชาติของอาหารหรือเครื่องดื่มอาจจะเปลี่ยนได้

ในทางกลับกัน แก้วที่ผลิตจาก PET, PS หรือ PLA อาจเสี่ยงต่อการแตกร้าวหรือการปล่อยสารปนเปื้อนเมื่อนำไปแช่แข็ง และจึง ไม่แนะนำให้ใช้งานในช่องแช่แข็ง

หากคุณเป็นผู้ประกอบการ หรือผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและความปลอดภัย การเลือกใช้แก้วพลาสติกให้เหมาะสมกับการแช่แข็งถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เพียงเพื่อรักษาคุณภาพเครื่องดื่มหรืออาหาร แต่ยังปกป้องสุขภาพของผู้ใช้งานในระยะยาวอีกด้วย

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: แก้ว PET ที่ใช้ในร้านกาแฟสามารถแช่แข็งได้ไหม?

A: ไม่แนะนำ แก้ว PET เปราะและมีโอกาสรั่วซึมเมื่อแช่แข็ง

 

Q: การแช่น้ำผลไม้ในแก้วพลาสติกทำให้วิตามินเสื่อมหรือไม่?

A: ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความเสถียรของพลาสติก ถ้าแช่ในแก้ว PP ที่ปลอดภัย จะไม่กระทบต่อคุณภาพมากนัก

 

Q: สามารถใช้แก้วพลาสติกแช่เย็นในตู้เย็นธรรมดาได้ไหม?

A: ได้เกือบทุกประเภท ยกเว้น PLA ซึ่งอาจเสื่อมสภาพหากความชื้นสูง

 

 

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

ข้อมูลจาก: Aaron Packaging

เรื่อง: Freeze Grade Plastics

ลิงก์: https://aaronpackaging.com/blogs/news/freeze-grade-plastics?srsltid=AfmBOoqqYimPwUcFdFYO1BLM0h-Hf3hqf22WPnrHR-QNCZwGrp0MmfU5